อะโวคาโด (Avocado) มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาแถบเม็กซิโก (Mexico) กัวเตมาลา (Guatemala) และ หมู่เกาะอินเดียตะวันตก (West Indies) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 และต่อมาได้มีการแพร่หลายไปยังรัฐต่าง ๆ ในประเทศอเมริกา ได้แก่ ฮาวาย (Hawaii) ฟลอริดา (Florida) และ แคลิฟอเนีย (California)
หากพูดถึงซุปเปอร์ฟู้ดส์ (Superfoods) แน่นอนว่าจะขาดอะโวคาโดไปไม่ได้เลย เพราะอะโวคาโดนับเป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์สูง อุดมไปด้วยไขมันดี ใยอาหารสูง และมีสารอาหารที่สำคัญอยู่หลายอย่าง ได้แก่
- วิตามินอี (Vitamin E) : บำรุงผิว ช่วยละลายไขมัน ป้องกันการอุดตันของเม็ดเลือด ต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการอักเสบ
- วิตามินเอ (Vitamin A) : บำรุงสายตา และยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- วิตามินบี (Vitamin B) : บำรุงระบบประสาท สมอง และแก้อาการเหน็บชา
- วิตามินซี (Vitamin C) : รักษาบาดแผล สร้างภูมิคุ้มกันโรค และบำรุงฟัน
- โพแทสเซียม : บำรุงระบบประสาท กล้ามเนื้อ และลดความดันโลหิต
- กรดโฟลิค (Folic Acid) : ลดความดันโลหิตและป้องกันโรคหัวใจ
- สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) : ชะลอความแก่ และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
- กรดไขมันดี ชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acids) : ลดคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันโรคหัวใจ
- สารแคโรทีนอยด์ 11 ชนิด (Carotenoids) : เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันเนื้องอก ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และหลอดเลือด
อะโวคาโดนับเป็นหนึ่งในผลไม้เพื่อสุขภาพชั้นยอด ที่คนรักสุขภาพนิยมเลือกรับประทาน เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แล้วยังเปี่ยมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีที่ร่างกายควรได้รับ และสำหรับสายผักอย่างชาววีแกน (Vegan) หรือ มังสวิรัต (Vegetarian) เนื้ออะโวคาโด (บด) ยังสามารถใช้แทนเนยสดหรือน้ำมันได้ รวมถึงมีผลิตภัณท์กลุ่มเนยเทียมที่ทำจากอะโวคาโดอีกด้วย
อะโวคาโดกินกับอะไรได้บ้าง… ?
อะโวคาโดสามารถทานเปล่า ๆ ได้ เหมือนผลไม้ปกติทั่วไป แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะนำอะโวคาโดมาทานคู่กับเมนูอย่าง สลัด , ขนมปัง หรือนำไปทำเครื่องจิ้มสไตล์เม็กซิโกที่เรียกว่า “กัวคาโมเล่” (Guacamole) นอกจากนี้อะโวคาโดยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในหลากหลายเมนูสไตล์เม็กซิกัน ซึ่ง Taco Bell ก็มีเมนูที่มีอะโวคาโดเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ โหลดเด็ด นาโช่ (Loaded Nachos), แคลิฟอร์เนีย เบอร์ริโต้ (California Burrito), แคลิฟอร์เนีย โบลว์ (California Bowl) เป็นต้น บอกได้เลยว่าอะโวคาโดเป็นองค์ประกอบที่เข้ามาช่วยชูรสชาติและเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารให้แก่เมนูเหล่านี้ได้อย่างลงตัว
